Category: Literature

E-Book หนังสือของคนยุคใหม่

E-Book

ปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อได้มีความก้าวล้ำไปจนไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งความก้าวหน้าที่พัฒนาขึ้นมาก็เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการชีวิตของคนเราให้มีมากขึ้น เพราะยุคนี้เป็นยุคดิจิตอลที่ทุกสิ่งอย่างได้ยกเข้ามาไว้บนโลกออนไลน์หมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่หนังสือที่ให้ความรู้ แต่เดิมหากต้องการอ่านหนังสือจะต้องอ่านจากหนังสือที่ทำการจัดพิมพ์บนกระดาษเท่านั้น ทว่าในยุคนี้ได้มีการพัฒนารูปแบบของหนังสือให้มีความล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น โดยการสร้าง E-book ขึ้นมาให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้อ่าน

            E-book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเปิดอ่านผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ นับว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการอ่านหนังสือมากขึ้น เพราะว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถทำการอ่านบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ โดยที่ไม่ต้องพกพาหนังสือที่เป็นเล่มซึ่งบางครั้งมีน้ำหนักมากหรือมีขนาดเล่มที่ใหญ่จึงทำให้พกพาไปไหนมาไหนลำบาก แต่สำหรับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แล้ว เมื่อต้องการอ่านก็สามารถดาวน์โหลดและเปิดอ่านผ่านมือถือได้ทันที ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ง่ายและสะดวกหนังสืออิเล็กทรอนิกส์นี้จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านที่อยู่ในวัยรุ่นหรือวัยทำงานสูงมากเนื่อง เพราะคนในวัยนี้เป็นวัยที่ชอบความสะดวกและมีการเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากกว่าคนที่อยู่ในวัยสูงอายุ ดังนั้นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จึงถือได้ว่าเป็นการพัฒนารูปแบบของหนังสือให้เหมาะกับยุคสมัยได้เป็นอย่างดี เป็นการเพิ่มการอ่านหนังสือให้มากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน เพราะหนังสือมีประโยชน์หลายด้าน เมื่อทำการอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่องอย่างน้อยเดือนละหนึ่งเล่มจะช่วยพัฒนาความรู้และความคิดให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการอ่านหนังสือ แต่ไม่ชอบที่จะต้องพกพาหนังสือเล่มหนาเดินทางไปด้วยตลอดเวลาแล้ว การดาวน์โหลด E-book มาอ่านในช่วงเวลาที่ว่างก็ถือว่าเป็นการช่วยเสริมสร้างความรู้ให้กับตนเองได้เป็นอย่างดี และการอ่าน E-book ยังเป็นการช่วยประหยัดอีกด้วย เนื่องจากราคาของ E-book ถูกกว่าราคาของหนังสือเล่มค่อนข้างมาก เพราะว่าต้นทุนในการผลิตหนังสือแบบนี้มีต้นทุนที่ถูกว่า ไม่มีค่าจัดพิมพ์ ไม่มีค่าเข้าเล่ม ไม่มีค่าวางจำหน่ายตามร้านจึงทำให้ราคาจำหน่ายมีราคาถูกกว่าหนังสือเล่ม

            ดังนั้นการพัฒนา E-Book ขึ้นมาจึงเป็นการส่งเสริมการอ่านให้เกิดได้ง่ายและมากขึ้นในกลุ่มคนที่เป็นกำลังสำคัญของชาติ อย่างกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ดังนั้นหากท่านต้องการเสริมความรู้ พัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ แล้ว การอ่าน E-Book ก็เหมือนกับการอ่านหนังสือทั่วไปที่หากเลือกอ่านแบบที่มีประโยชน์ก็จะส่งเสริมให้คุณมีความรู้พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองได้

หนังสือสำหรับเด็กเพื่อสร้างพัฒนาการที่ดี

หนังสือสำหรับเด็ก

เด็กเล็กเป็นวัยที่อยู่ในช่วงที่อยากรู้อยากเห็น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวของเด็กเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเด็กช่วง 1-3 ปีแรกเป็นช่วงที่สมองมีการเจริญเติบโตมากที่สุด ดังนั้นหากมีการเสริมพัฒนาการที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว เด็กจะมีพัฒนาการทั้งด้านสมองและอารมณ์ที่สมบูรณ์ มีจินตนาการที่กว้างไกล เรียนรู้ได้ไวและจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี ซึ่งสิ่งที่ช่วยเสริมพัฒนาการให้เด็กคือหนังสือและของเล่น โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงหนังสือที่ช่วยเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กในช่วง 5 ปีแรกว่ามีลักษณะอย่างไร

1.เข้าใจง่าย

            เด็กในช่วงวัยนี้ยังมีความเข้าใจในเนื้อหาได้ไม่มากนัก ดังนั้นหนังสือที่นำมาอ่านให้เด็กฟังควรมีเนื้อเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ต้องแปลความหมายของเรื่องหรือคำที่ใช้ในเนื้อหาอีกครั้งถึงจะเข้าใจ โดยเฉพาะหากมีเนื้อหาเกี่ยงข้องกับสิ่งของใกล้ตัวจะทำให้เด็กสามารถจินตนาการและนึกภาพออกได้ง่าย ทำเด็กมีความสุขกับการได้รับฟัง

2.สีสันสวยงาม

            หนังสือสำหรับเด็กควรมีภาพประกอบและมีสีสันที่สดใสสวยงาม เพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กและสีสันยังช่วยกระตุ้นการสร้างคลื่นสมองให้เกิดมากขึ้นด้วย เนื่องจากสีสันที่เด็กมองเห็นจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยประสาทและสารสื่อที่อยู่ภายในสมองให้มีมากขึ้น ทำให้เมื่อเด็กโตขึ้นจะสามารถเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

3.ไม่ยาวเกินไป

            เนื้อหาของตัวเรื่องควรมีความยาวไม่เกิน 1-2 นาทีในการอ่านให้เด็กฟัง เพราะว่าเด็กในวัยนี้มีความอดทนในการอยู่นิ่งได้ไม่นาน เพราะหากเนื้อหาของเรื่องมีความยาวมากเกินไปจะทำให้เด็กรู้สึกเบื่อและไม่อยากที่จะฟังเรื่องราวในหนังสือที่อ่านให้ฟัง ดังนั้นการเดินเรื่องของหนังสือควรกระชับและสนุกสนาน เพื่อให้เด็กได้รับรู้เรื่องราวอย่างครบถ้วนในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นการกระตุ้นจินตนาการของเด็กตามเรื่องราวในหนังสือ

            การเลือกหนังสือสำหรับเด็กวัย 5 ปีขึ้นไปเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองหรือพ่อแม่ควรใส่ใจ เพราะว่าการอ่านหนังสือให้เด็กฟังนอกจากที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้มีการสร้างเส้นใยและสารสื่อประสาทที่จะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านสมองและจิตใจแล้ว การอ่านหนังสือให้บุตรหลานฟังยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนในครอบครัวอีกด้วย เพราะการอ่านหนังสือเด็กไม่สามารถอ่านเองได้ ดังนั้นพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูจะต้องเป็นคนอ่านให้ฟัง จึงถือว่าเป็นเวลาที่ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังทุกวันก่อนนอน

หนังสือ

ปัจจุบันนี้ทุกชีวิตต่างต้องดิ้นรนทำมาหากินเพื่อให้ครอบครัวมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยิ่งหากมีลูกเกิดขึ้นภายในครอบครัวด้วยแล้ว ภาระด้านค่าใช้จ่ายย่อมเพิ่มสูงขึ้น แต่ว่าเงินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเด็กที่อยู่ภายในครอบครัวได้ เพราะเด็กยังไม่รู้คุณค่าว่าเงินมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขาก็คือความรักความอบอุ่นที่ได้รับจากพ่อแม่ หลายครั้งที่เรามักได้ยินว่าการที่จะทำให้เด็กมีพัฒนาการรอบด้านที่ดีได้นั้น พ่อแม่ควรทำการอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกวัน คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมการอ่านหนังสือให้เด็กฟังจึงสามารถช่วยเสริมพัฒนาการให้กับเด็กได้ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันดังนี้

1.รับรู้ถึงความรักความใส่ใจ

            ช่วงเวลาก่อนนอนเป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ดังนั้นการหากิจกรรมทำร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์และแสดงออกถึงความรักที่มีต่อลูกสามารถทำได้ด้วยการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง เพราะว่าในช่วงที่พ่อแม่ทำการอ่านหนังสือจะมีการพูดคุย หยอกล้อ ให้เด็กรู้สึกได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่มากขึ้น ทดแทนช่วงเวลาทั้งวันที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เนื่องจากพ่อแม่ต้องออกไปทำงาน

2.เสริมสร้างจินตนาการ

            เนื้อหาของหนังสือที่นำมาอ่านให้ลูกฟังก่อนนอนควรจะมีเนื้อหาในแนวสร้างสรรค์ที่สามารถทำให้ลูกมีการสร้างภาพในสมองระหว่างการฟังไปด้วย เพราะบางครั้งในระหว่างที่มีการอ่านหนังสือให้ฟังอาจจะการพูดจาตอบโต้หรือถามความคิดเห็นของลูกในขณะที่ฟังด้วย ทำให้ลูกเกิดการวาดภาพในสมองเกิดขึ้นตามคำบรรยายที่ได้ฟังเรื่องราวของหนังสือ ซึ่งการสร้างภาพในสมองจะช่วยให้ลูกมีจินตนาการในอนาคต มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้จากการคิดในสมองและลงมือทำเป็นการสร้างระบบการทำงานของสมองให้มีระเบียบและมีสมองมีการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

 3.ช่วยพัฒนาสมองส่วนหน้า

            การอ่านหนังสือให้ลูกฟังจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะสมองส่วนหน้าที่จะมีการพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น การที่สมองส่วนหน้ามีหน้าที่ในการควบคุมพฤติกรรม การแสดงออกทางอารมณ์ การจัดระเบียบให้เป็นแบบแผนและการแก้ไขปัญหา ดังนั้นหากทำการอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างต่อเนื่องจะทำให้ลูกมีการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น เป็นระเบียบและเชื่อฟังพ่อแม่มากขึ้นและมีจิตนาการ

            การอ่านหนังสือให้ลูกฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น แต่เมื่อศึกษาดูแล้วจะพบว่าการอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกวันตั้งแต่เกิดจะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาสมองและระบบการสื่อสารของลูกได้เป็นอย่างดี ดังนั้นก่อนอนทุกคืนหาหนังสือสักเล่มมาอ่านให้ลูกฟังกันดีกว่า